บาตาเวีย (
ดัตช์: Batavia) เป็นเรือของ
บริษัทอินเดียตะวันออกของเนเธอร์แลนด์ สร้างในค.ศ. 1628 ที่เมือง
อัมสเตอร์ดัมเพื่อเป็น
เรือธงลำใหม่ของบริษัท บาตาเวีย ออกเดินทางไปยังเมือง
ปัตตาเวีย เมืองหลวงของ
หมู่เกาะอินเดียตะวันออกของเนเธอร์แลนด์เป็นครั้งแรกในปีนั้น แต่อัปปางที่หมู่เกาะ Houtman Abrolhos ทางชายฝั่งตะวันตกของ
ออสเตรเลียในวันที่ 4 มิถุนายน ค.ศ. 1629
[1]มีผู้โดยสาร 40 คนจมน้ำขณะว่ายไปยังเกาะหลังเรือแตก
[2] ฟรันซิสโก เปลเซิร์ต ผู้บัญชาการเรือตัดสินใจล่องเรือยาวไปยังปัตตาเวียกับลูกเรือบางส่วนเพื่อขอความช่วยเหลือ โดยให้เยโรนีมัส คอร์เนลิสคอยดูแล คอร์เนลิสส่งคนราว 20 คนไปยังเกาะใกล้เคียงโดยแสร้งให้ไปหาน้ำจืดแต่มีแผนจะทิ้งคนเหล่านี้ให้ตาย
[3] ก่อนตนเองจะก่อกบฏแล้วสังหารหมู่ผู้ที่ไม่ยอมอยู่ใต้อำนาจไปกว่าร้อยคน
[4][5] ผู้หญิงบางส่วนถูกเก็บไว้เป็น
ทาสทางเพศ ซึ่งหนึ่งในนั้นเป็นหญิงงามนาม ลูเครเชีย ยันส์ ซึ่งสงวนไว้ให้คอร์เนลิสคนเดียว
[6]ขณะเดียวกันกลุ่มที่ถูกส่งไปค้นพบน้ำจืดอย่างไม่คาดฝัน และทราบเรื่องที่คอร์เนลิสก่อกบฏและฆ่าผู้คน กลุ่มคนเหล่านี้นำโดย
วีบบี เฮย์สจึงตัดสินใจปราบคอร์เนลิส
[7] ทั้งสองฝ่ายสู้รบกันหลายครั้งจนกระทั่งในเดือนตุลาคม ค.ศ. 1629 เปลเซิร์ตกลับมาและทราบเรื่องที่เกิดขึ้น เขาทำการสอบสวนและประหารชีวิตคอร์เนลิสและพวกอีกหกคน กลายเป็นชาวยุโรปกลุ่มแรกที่ถูกประหารชีวิตตามกฎหมายในออสเตรเลีย
[8] ส่วนพวกของคอร์เนลิสอีกสองคนที่ทำผิดเล็กน้อยถูกปล่อยทิ้งใน
ออสเตรเลียแผ่นดินใหญ่ กลายเป็นชาวยุโรปกลุ่มแรกที่อาศัยในออสเตรเลียอย่างถาวร
[9] จากผู้โดยสารกว่า 300 คน มีเพียง 122 คนที่รอดชีวิตจนถึงท่าเรือเมืองปัตตาเวีย
[10]เหตุการณ์เรือ บาตาเวีย ถือเป็นหนึ่งในเรื่องสยองขวัญที่เลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์การเดินเรือ และเป็นหัวข้อทางประวัติศาสตร์ที่มีการตีพิมพ์หลายครั้งนับตั้งแต่ครั้งแรกในค.ศ. 1647 บาตาเวีย เป็นอีกหนึ่งเรื่องเล่าเกี่ยวกับชาวยุโรปที่ติดต่อทวีปออสเตรเลีย นอกเหนือจากเรื่องการส่งนักโทษอังกฤษมาคุมขังที่นี่ สิ่งเกี่ยวข้องกับ บาตาเวีย อย่างท้ายเรือและโครงกระดูกผู้เสียชีวิตถูกเก็บรักษาที่พิพิธภัณฑ์ในเมือง
ฟรีแมนเทิล รัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย[11] ขณะที่แบบจำลอง บาตาเวีย ถูกจอดเทียบท่าอยู่ที่พิพิธภัณฑ์ในเมือง
เลลีสตัด ประเทศเนเธอร์แลนด์[12]